หากใครอยากเห็นองค์กรนวัตกรรมแบบใหม่ๆ ที่ก้าวพ้นขั้วตรงข้ามแห่งธุรกิจและNGOไปได้นั้น มีเรื่องน่าสนใจดังนี้ครับ
เมื่อไม่นานมานี้ มีการจัดงานซึ่งนำผู้ประกอบการเพื่อสังคมรุ่นใหม่ (young social entrepreneurs) ของไทยที่ TRN Institute พยายามสนับสนุนอยูู่
(โดยเฉพาะในวงด้าน Internet-based social enterprises ตั้งแต่กลุ่มทำเว็บให้องค์กรด้านสังคม ทำ podcast ในประเด็นด้านสังคม ทำ e-commerce ให้ชาวบ้าน ฯลฯ)
พวกผู้ประกอบการรุ่นใหม่ดังกล่าวนี้ได้จัดกิจกรรม Mini-boot camp ร่วมกับนักศึกษาจากสถาบัน KaosPilot ซึ่งคล้ายๆเป็น MBA ของคนที่ต้องการจะตั้งธุรกิจใหม่ๆที่เป็นนวัตกรรมทางสังคมจากยุโรป นอกจากนั้นก็ยังมีขาแจมอีกมาก เช่น bact’ และนักทำหนังสั้นจากอังกฤษ ฯลฯ
งานที่ว่าจัดขึ้นโดย TRN Institute ที่ The World Bank Bangkok โดยความร่วมมืออย่างดีของ the world bank youth club
งานนี้ทำให้คนที่อยากสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคมแต่ต้องอยู่ได้อย่างยั่งยืนได้โดยการสร้างรายได้นั้นได้เจอกัน ได้แลกเปลี่ยนไอเดียบรรเจิดมากมาย และได้แลกเปลี่ยนความคิดที่แตกต่างข้ามโลก (East meets West) กันเลยทีเดียว
ติดตามรายระเอียดของงาน และ video clip ที่ตัดโดย Thoth media (duocore.tv) ได้ที่ (เป็นภาษาอังกฤษครับ แต่เน้นภาพ)
http://changehack.com/?p=7
คิดว่าน่าจะมีโอกาสจัดอะไรคล้ายๆอย่างงี้อีกในอนาคต ใครสนใจก็ mail มาบอกแล้วกันครับ
เอ้อใช่ ปีเตอร์ครูใหญ่ KaosPilot เขาฝากบอกทุกคนว่า
อยากได้คนไทยไปร่วม “ทีม” ใหม่ที่กำลังจะเปิดเรียนเร็ว ๆ นี้
ใครสนใจก็ไปดูกันได้ที่
http://www.kaospilot.nl/ นะครับ
เยี่ยมเลยครับ คุณสุนิตย์
SE ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการสัมมนาหรอกครับ พื้นฐานของ Social Enterprise มาจาก Social Enterprenuer การรวมกลุ่มกันเป็นสิ่งทีดี แต่ว่าสมาชิกแต่ละคนจะต้องมีพี้นฐานในการสร้างธุรกิจของตนเองด้วย ไม่อย่างนั้นเท่ากับว่า Social Enterprise ของไทยจะถูก conduct ด้วยนักลงทุนต่างชาติ เหมือนกับที่นักลงทุนอเมริกันที่มาจากเครือ consulting พยายามเข้ามาสร้างมาตรฐานธุรกิจแนวนี้ทั้งๆที่ในทางปฏิบัตินั้น สหรัฐอเมริกายังคลานต้วมเตี้ยมในแนวคิดธุรกิจแบบนี้อยู่เลย ขณะที่ทางฝั่งอังกฤษนั้นได้พัฒนาระบบการศึกษาและหน่วยงานรัฐบาล ภาคธุรกิจเอกชนทั้งที่หากำไรและไม่หากำไรไปพร้อมๆกันโดยปราศจากการจูงจมูกของอเมริกัน
ผมทำธุรกิจแนวนี้มาเข้าปีที่สองโดยไม่ต้องไปสัมมนาที่ไหน SE เป็นแนวคิดของคนที่ทำมากกว่าพูด และใช้ตัวอย่างแทนคำสอน คนไทยชินกับการควานหาทฤษฏีเพื่อมาเป็นแนวทางในการริเริ่มทำอะไร แต่ความเป็นจริงแล้ว การริ่เริ่มลงมือทำอะไรนั่นหรือ คือจุดเริ่มต้นของทฤษฏี ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม มาเยี่ยมและให้กำลังใจคนที่สนใจ และขอให้ลงมือทำกันจริงๆจังๆ ประเทศชาติไปรอดแน่
ขอให้ข้อมูลเพิ่มหน่อย คือจริงๆแล้วทุกคนที่มานั้นกำลังทำ SE กันจริงๆอยู่ เริ่มกันมาเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ไม่ได้แค่คิด TRN เองหนุนการสร้าง SE มาตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว มีทั้งจากทุนในประเทศและต่างประเทศ ไม่เห็นจะต้องไปกล่าวหาอะไร เป็นพวกพูดมากกว่าทำทั้งสิ้น แล้วเป็นผู้พูดแล้วก็บอกด้วยว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่ anonymous นะเวลาจะแสดงความคิดอะไร
เราพยายามเจอกันเพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียน ทั้งในเมืองไทย และเมืองนอก รวมตัวกันไว้เป็นเครือข่าย จะได้ช่วยกัน แจมกัน ทำอะไรด้วยกันได้
แล้วการพยายามที่จะเรียนรู้จากแนวคิด ทฤษฏี หรือประสบการณ์คนอื่นมันผิดตรงไหน
ใครอยากมาคุยกัน มาสัมมนา มาแจมกันมันผิดตรงไหน ใครอยากทำเงียบๆไม่สุงสิงไม่ร่วมกับใครก็ทำไปซิครับ จะมาว่าคนอื่นทำไม แถมว่าแล้วก็ไม่บอกชื่ออีก
ที่อเมริกาจะต้วมเตี้ยมแค่ไหนเรื่อง SE ก็เจริญกว่าเราเยอะ มีองค์กรที่มี impact มีเครือข่าย มีการลงทุนอยู่มาก ไม่ใช่มาแอบๆทำแบบที่ใครว่า
อยากให้แยกแยะว่าคนที่ทำ SE ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการจูงจมูกของอเมริกัน คนอเมริกันดีๆก็มี คนอังกฤษดีๆก็มี คนดีๆในเมืองไทยก็มี แต่แน่นอนว่าคนไม่ดีก็มีในทุกๆที่ อย่ามาเหมาแบบมั่วๆสิครับ
สุดท้ายแล้วเราอยู่ในโลกาภิวัฒน์นะครับ อยู่แค่ว่าจะใช้เลือกใช้ประโยชน์หรือจะต่อต้านแบบไม่ลืมหูลืมตา
ผมสนุกมาเลยที่จะได้ให้ตัวตนของคุณค่อยๆแสดงออกมา แรกเริ่มก็เรื่องของการอ้างสิทธิมนุษยชนกับเรื่องการไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีว่าไม่ใช่อาชญากร ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าคนประเภทอย่างคุณนี่มันสุดโต่ง คุณอาจจะได้ซึมซับแนวคิดจากต่างประเทศมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดแนวเสรีชน เสรีภาพ คือ ประชาธิปไตย คือสิทธิต่างๆที่คนพึงจะได้ ผมถามคุณหน่อยนะ คุณสุนิตย์ คุณเข้าใจประวัติศาสตร์ไทยมากแค่ไหนถึงออกมาพ่นเอาๆ ได้ขนาดนี้ เจตนารมณ์ของกฏหมายอาญาที่ลงโทษคนที่ไม่ยืนเคารพต้องการอะไร คุณรู้หรือยังถึงออกมาตีความตะแบงเข้าข้างตัวเอง คุณลองคิดดูในมุมกลับกันบ้างว่า ถ้าคนๆนึงไม่ยอมลุกถวายความเคารพและคนๆนั้นไม่โดนลงโทษ แล้วกลายเป็นต้นเหตุทำให้คนอื่นๆเลียนแบบ ไม่ยอมลุกขึ้นเหมือนๆกัน เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีเปิดขึ้น คนในโรงหนังนั่งกินป๊อบคอร์น นั่งคุยกันสบาย คุณเรียกว่าเสรีชนใช่มะ
เจตนารมณ์ของกฏหมายอาญา คือป้องกันและป้องปรามการกระทำที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ในกรณีนี้ก็คือ การป้องกันและป้องปรามไม่ให้คนในสังคมไม่เคารพสถาบันหรือคิดล้มสถาบันสูงสุด คุณเข้าใจหรือยัง
เรื่องเจตนาของกฏหมายแค่นี้ คุณยังไม่เข้าใจ นับประสาอะไรที่คุณพยายามยกตัวเองว่าเป็นคนทำเพื่อสังคม ขอโทษนะ เหม็นขี้ฟันว่ะ คุณอยากท้าไม๊ล่ะว่า คนในสังคมไทยคิดเหมือนคุณหรือเปล่า ผมจะโพสข้อความที่คุณอ้างเรื่องการไม่ยืนทำความเคารพไม่ใช่อาชญากรไปซักเว็บนึง ผมอยากรู้เหมือนกันว่าคนที่เขาได้อ่านเขาจะทำกับคุณอย่างไร คุณอยากดัง ผมจะช่วย
คุณต้องการจะทำอะไร คุณต้องการสร้างโดเมนว่า SE คือตัวคุณใช่มะ
คุณทำมาหากินกับการสร้างภาพให้ตัวเอง Social Enterprise มันต่างอะไรกับระบบสหกรณ์ ระบบสหกรณ์ริเริ่มมาจากใคร คุณอย่าบังอาจสร้างภาพให้ตัวเองว่าเป็นคนกลุ่มแรก เป็นการรวมกลุ่มอย่างนั้นอย่างนี้ การรวมกลุ่มสังคมในประเทศไทยน่ะมันมีมาก่อนพวกคุณจะเกิดออกมาจากท้องแม่ซะอีก เริ่มตั้งแต่กลุ่มเกษตรกรสมัยไหนแล้ว ขอให้คุณสำนึกไว้ซะบ้าง โดยเฉพาะข้าวแดงแกงร้อนที่เลี้ยงคุณมาจนตัวเท่าอะไรแล้วน่ะ ก็มาจากกลุ่มเกษตรกรทั้งนั้น
ฝรั่งมันตื่นเต้น มันคิดกระบวนการ มันคิดเทคโนโลยี นั่นคือข้อดีของมัน แต่คนไทยเราเองต้องหัดมีการปรับเอาวิทยาการเหล่านั้นมาใช้กับบ้านเรามั่ง ไม่ใช่ต้องให้มันจูงจมูก เอาเงินมาให้ เอาของมาให้ ถ้ายังคิดต้องพึ่งทุนกันอย่างนี้ เงินไม่มี สมองไม่มา คุณอย่ามาอุปโลกน์ขบวนการอะไรของคุณเลย ผมว่า ตัวคุณเองน่ะ มีความต้องการส่วนตัวในเรื่องพวกนี้มากกว่าจะทำอะไรให้สังคมหรอก คนที่เขาทำอะไรให้ใคร มันไม่ต้องตะโกนให้ใครเขามารับรู้หรอกว่า นี่ไง พวกข้านี่แหละเป็นคนที่ทำเพื่อสังคม พวกข้ามีธุรกิจเพื่อสังคมนะ
และขอโทษ ผมไม่คิดเลยว่า ไอ่โครงการทีวงทีวีอะไรที่พวกคุณทำน่ะ มันเพื่อสังคมส่วนรวม แต่มันเพื่อสังคมเฉพาะกลุ่มพวกคุณเองมากกว่า คือเป็นโครงการสนองความอยากส่วนตัว แต่อ้างสังคม มันต่างอะไรกับ NGO เผลอ NGO ยังทำได้ประโยชน์มากกว่า ถ้าคุณอยากรู้ว่าธุรกิจเพื่อสังคมคืออะไร คุณเคยไปเรียนรู้โครงการพระราชดำริหรือยัง หือ ผมว่าไม่หรอก ขนาดคุณยังมองว่าการไม่ลุกยืนเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นเรื่องเสรีภาพเลย ผมไม่คิดหรอกว่า คุณจะเข้าอกเข้าใจอะไรคนในสังคม หรือโครงการที่ทำเพื่อสังคมจริงๆ
และที่ผมไม่ใส่ชื่อ มันเป็นเสรีภาพของผมว่ะ คุณอ้างเสรีภาพได้ ผมก็ทำได้ ก็นี่มันโลกาภิวัฒน์ไง เอิ้กๆๆๆๆ
ขอบคุณที่ชี้แนะครับ คนอื่นคิดไงก็บอกนะครับ 🙂
เอ้า ใครอยากทำอะไรทำ!
บ้านเมืองของเรา-เท่ากัน
“คุณทำมาหากินกับการสร้างภาพให้ตัวเอง Social Enterprise มันต่างอะไรกับระบบสหกรณ์ ระบบสหกรณ์ริเริ่มมาจากใคร คุณอย่าบังอาจสร้างภาพให้ตัวเองว่าเป็นคนกลุ่มแรก เป็นการรวมกลุ่มอย่างนั้นอย่างนี้ การรวมกลุ่มสังคมในประเทศไทยน่ะมันมีมาก่อนพวกคุณจะเกิดออกมาจากท้องแม่ซะอีก เริ่มตั้งแต่กลุ่มเกษตรกรสมัยไหนแล้ว ขอให้คุณสำนึกไว้ซะบ้าง โดยเฉพาะข้าวแดงแกงร้อนที่เลี้ยงคุณมาจนตัวเท่าอะไรแล้วน่ะ ก็มาจากกลุ่มเกษตรกรทั้งนั้น”
แหล่มเรยส์
ถ้าจะให้ถูกใจ คุณ SE คุณต้องให้มีพระบิดาแห่ง โซเชียล อองเตอเพรเนอร์ด้วย
แล้วต้อง se อย่างพอเพียง ใช่ไหมครับ
เอ้ากราบ
ปล. ถ้ามีงานอย่างนี้อีก ช่วยกรุณาแจ้งข่าวด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ จะแจ้งแน่นอนครับ