เช้านี้ผมตกใจมาก เพราะนั่งอ่าน blog ของ Guy Kawasaki อยู่ดีๆ เขาพูดถึงเทคโนโลยีโอโลแกรม ที่ beam ภาพสามมิติของคนขึ้นมาในที่ประชุม คล้ายๆใน Star-Wars ก็เลยเข้าไปในเว็บเจ้าของเทคโนโลยี hologram presentation ที่ว่า ชื่อ Musion อยู่ที่อังกฤษ เมื่อเข้าไปแล้วก็งงเลย เพราะสุดยอด Rock band ในดวงใจ X-Japan ก็ใช้เทคโนโลยีนี้ beam Hide มาเล่น Guitar กลางเวทีแบบ 3-D ใน concert รวมกันครั้งแรกรอบสิบปีของ X-japan ในเพลง Art of Life ตอนแรกค่อยๆมาแบบ monochrome เหมือน Star Wars แล้วก็ค่อยๆกลายเป็นสีเหมือนคนจริงๆ แล้วก็ยังมีสลับเป็น Pixel แตกๆอีกด้วย
http://www.musion.co.uk/X_Japan_Hide_hologram.html
เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้คงค่อยๆเปลี่ยนโลกของการประชุมต่างๆหรือแม้แต่ concert ไปเลยในอนาคต ซึ่งอาจจะทำให้คนเดินทางไปประชุมต่างๆน้อยลงได้เมื่อราคาถูกลงเรื่อยๆ อย่างที่ office ผมนี้คงอยากได้ซักเครื่องแน่นอน วันๆประชุมกันบ้าเลือดทั่วเมืองเพราะเราต้องทำงานร่วมกับคนอื่นเยอะ ซึ่งอาจจะช่วยเรื่องภาวะโลกร้อนบ้าง
ดีใจได้ฟังเพลง Art of life ตอนเช้าๆ ตลกดีที่โลกของเทคโนโลยีนำไปสู่สิ่งที่เราชอบได้อย่างน่าแปลกใจ
ทำให้ระลึกได้ว่าผมเคยชอบเล่นดนตรีมากๆ เคยออก concert มีวงของตัวเองแนว J-Rock ตั้งแต่สมัยเรียน ตอนนี้ครบสิบปีตั้งวงพอดี ต้องออกเพลงแบบทำเองแจกเองให้ได้ในปีนี้ เห็น Yoshiki ตอนนี้คงสี่สิบกว่าแล้วแต่ยังดูดีมากๆ ก็เกิดกำลังใจลดความอ้วนเพิ่มเติมกันทีเดียว
555 พึ่งรู้ว่าคุณสุนิตย์ก็ชอบ X
ผมก็ปลื้มวงนี้โคตร
โดยเฉพาะ Yoshiki
ท่าตีกลองของเจ้
สะบัดช่อมาก
เพลงที่ชอบที่สุดตัดสินใจยากมาก
แต่ค่อนข้างชอบเพลงเร็ว
โดยเฉพาะ Weekend
ท่อนที่กำลังเปลี่ยนเป็นช้า
และมีจังหวะคนโหยหวน
ส่วน Endless rain
ฟังแล้วเหมือนเดินอยู่บนท้องถนนของมหานครปารีส
และฝนตกพรำตลอดทาง
บรรยากาศโรแมนติคสุดๆ
แต่พอดูมิวสิคแล้วอารมณ์ค้างเลย
เพราะไม่ตรงกับสิ่งที่ผมจินตนาการไว้สักกระพี้เดียวเลย
ขอบคุณที่เขียนบทความดีๆที่หลากหลายมาให้เราได้ชื่นชมกัน
X
you are the Best.
ปล. ลืมบอกไปอีกเพลง ชอบ Rose of Pain มากๆๆ
จินตนาการถึงการอยู่ในปราสาทของยุคกลาง แล้วก็มีดอกกุหลาบสีแดงที่ตัดกับพื้นที่ดำมืดของห้อง เราค่อยๆเจ็บปวดกับหนามกุหลาบ เลือดอาบซึมแบบท่วมใจ เจ็บปวดแต่สุขซึ้ง หวานละมุนกับกลิ่นคาวเลือด
อีกเพลง Alive ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิม กูยังไม่ตาย 555
Art of life ก็ฟังได้ แค่ชื่อเพลงก็โดนใจแล้ว