เพลงประกอบภาพยนต์ของ Ennio Morricone

อัลบั้มที่ประทับใจผมที่สุดที่ซื้อมาในช่วงฉลองปีใหม่ที่ร้าน Gramophone (Paragon) ก็คืออัลบั้มเพลงประกอบภาพยนต์โดย Ennio Morricone เขาเป็นนักแต่งเพลงและ conductor จากอิตาลีซึ่งมีแนวทางการแต่งเพลงที่ไม่เหมือนใครในช่วงนั้น พื้นฐานของ Ennio เป็นเพลง Classic ที่มีแนวทางไปในลักษณะ Romantic แต่ไม่ฟู่ฟ่าหรือโฉ่งฉ่าง เน้นความสวยงามของเมโลดี้ theme / motif ตามลักษณะเพลงประกอบภาพยนต์ และใช้เพลงลักษณะนี้ในการประกอบภาพยนต์โดยเฉพาะแนว American Western / Cowboy ซึ่งทำได้อย่างลงตัวจนน่าตกใจ เหมือนเป็นการผสมผสานโลกเก่าของยุโรปมาห่อหุ้มภาพของโลกใหม่ในอเมริกา เขาร่วมกับผู้กำกับเช่น Sergio Leone นำแนวทางการทำหนังแบบยุโรป มาทำหนังฮอลีวู๊ตได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะเมื่อมีดนตรีประกอบซึ่งสามารถดึงอารมณ์ได้รุนแรงที่สุด เช่นในเรื่อง Once upon a time in the West   เพลงที่ผมชอบที่สุดในอัลบั้มคือเพลง Deborah’s theme ของเรื่อง Once upon a time in America ซึ่งใช้เวลาเพียงราว 4 […]

Read more "เพลงประกอบภาพยนต์ของ Ennio Morricone"

ยิ่งโลกร้อน โอโซนยิ่งหาย ยิ่งเป็นมะเร็ง!!

มีคนถามว่าตกลงโลกร้อน แก็ซเรือนกระจก และปัญหาโอโซนเกี่ยวกันอย่างไร  เป็นเรื่องงงๆของหลายคน หาไปหามาก็ถึงบางอ้อที่… http://www.ratical.org/ratville/ozoneDepletion.html เขาสรุปว่าความสัมพันธ์ระหว่างโอโซนและ green house gas เป็นดังนี้ 1. ตอนแรกเราเข้าใจว่า  CFC หรือสารเคมีประเภทนี้จะทำลายโอโซนเป็นหลัก 2. การค้นพบช่วงหลังๆพบว่านอกจากสารเคมีแล้ว การเปลี่ยนแปลงของโอโซนยังเชื่อมโยงกับอุณหภูมิด้วย  กล่าวคือยิ่งอุณหภูมิผิวโลกร้อนขึ้นในสภาวะเรือนกระจก ก็จะทำให้ OZone ลดลงเท่านั้น 3. สาเหตุเพราะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นในก็าซเรือนกระจกนั้นเกาะตัวในบรรยากาศชั้นล่างที่เรียกว่า troposphere จึงทำให้บรรยากาศชั้นนี้ร้อนขึ้นเรื่อยๆ   ในขณะที่ stratosphere ซึ่งเป็นบรรยากาศโลกชั้นบนกลับจะเย็นขึ้นเรื่อยๆเพราะความร้อน ไม่เคลื่อนออกจาก troposphere ไปสู่ stratosphere แล้วออกไปอวกาศเหมือนเมื่อก่อน  เพราะความร้อนไปติดอยู่ที่ชั้น troposphere เสียก่อนแล้ว 4. อุณหภูมิที่หนาวขึ้นในชั้น stratosphere ทำให้ Ozone ไม่เสถียรและสลายตัวมากขึ้นๆ ทำให้เป็นรูมากขึ้น ไม่สามารถพื้นตัวได้แม้ CFC จะลดน้อยลง 5. ยิ่งโลกร้อน คนก็จะได้รับผลจาก UV radiation ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็ง และมีปัญหาเกี่ยวกับความอ่อนแอของภูมิต้านทานต่อโรคติดต่อ ฯลฯ […]

Read more "ยิ่งโลกร้อน โอโซนยิ่งหาย ยิ่งเป็นมะเร็ง!!"

บทเรียนจากฮันนิบาลแห่งคาร์เธจ และการเมืองไทย

หลังจากได้ดู DVD หนังสารคดี BBC เรื่องของฮันนิบาล บากา แห่งอาณาจักรคาร์เธจ (B2S ร้อยกว่าบาทเอง!)   ผู้ซึ่งเกือบจะสามารถพิชิตสาธารณรัฐโรมัน (The Roman Republic) ได้ในช่วงราวสองร้อยปีก่อนคริสตกาล แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้นั้นทำให้ได้บทเรียนสำคัญหนึ่งอย่างคือ “ชัยชนะจะต้องเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดถึงที่สุด” เรื่องมีอยู่ว่าฮันนิบาลสาบาญว่าจะเป็นศัตรูของโรม และแค้นที่โรมมาย่ำยีอาณาจักรคาร์เธจของตน (ซึ่งอยู่ที่ Tunisia ปัจจุบัน) จนต้องถอยร่นไปตั้งใหม่แถวสเปน และต้องใช้เวลากว่า 50 ปีถึงจะพื้นอำนาจความแข็งแรงขึ้นมาได้   ฮันนิบาลได้นำทัพราว 50,000 คนบุกโรมในลักษณะที่ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าจะทำได้ ก็คือการเดินทางบกข้ามหุบเขา Alps ซึ่งสูงและเต็มไปด้วยหิมะ ยากต่อการผ่านทางได้ แต่สุดท้ายก็ทำได้และสามารถนำเอาชนเผ่าต่างๆที่อยากจะต่อต้านโรมอยู่แล้วมารวมกัน สามารถชนะการต่อสู้ถึงสามครั้งในพื้นที่ของโรมันเอง ด้วยแนวการทำศึกแบบทำสิ่งที่ศัตรูคาดเดาไม่ได้หรือไม่คิดว่าเราจะทำ ทหารโรมันเสียชีวิตจากการพ่ายแพ้นับแสนคน ในที่สุดก็มีโอกาสที่จะเข้ายึดเมืองหลวงของโรมได้ โรมอยู่ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดและพร้อมจะล่มสลายได้ในทันที แต่ฮันนิบาลก็เกิดธรรมะธรรมโมขึ้นมาว่าตามหลักการสงครามในสมัยนั้นโรมจะต้องยอมแพ้เองแล้ว  และคิดว่าคาร์เธจไม่ใช่คนป่าที่จะเข้ายึดทำลายเมืองหลวงของคนอื่นจนราบคาบ  ฮันนิบาลก็เลยรออยู่นอกเมืองเพื่อให้โรมยอมแพ้ แต่โรมไม่ยอมแพ้ และแม้โรมจะอ่อนแอมาก แต่ก็ค่อยๆสร้างขุมกำลัง ในขณะที่ทหารของฮันนิบาลอ่อนแอลงเรื่อยๆ ในที่สุดฮันนิบาลก็ส่งคนไปขอกำลังทหารเพิ่มจากคาร์เธจแต่ก็แพ้อำนาจการเมืองจากศัตรูทางการเมืองของตนในคาร์เธจเองจึงไม่ได้กำลังเสริม ในขณะที่โรมเองก็เรียนรู้วิธีรบแบบฮันนิบาลและส่งคนไปตีคาร์เธจ  และการเมืองในคาร์เธจเองก็โง่บ้าพอที่จะไม่ยอมเรียกฮันนิบาลกลับไปช่วยรบ  ฮันนิบาลก็จึงทำอะไรไม่ได้นอกจากตรึงกำลังไว้ใกล้ๆโรม  จนในที่สุดสถานการณ์วิกฤตจนคาร์เธจต้องเรียกฮันนิบาลกลับ แต่ก็ช้าเกินไป แม้ฮันนิบาลเองก็รบแพ้ด้วยความไม่พร้อมหลายๆเรื่องและการที่แม่ทัพแห่งโรมได้ใช้ยุทธศาสตร์แบบเดียวกับที่ฮันนิบาลใช้มาตีคาร์เธจเอง  เขาต้องหนีไปเรื่อยๆจนในที่สุดก็ต้องฆ่าตัวตายก่อนที่ทหารโรมันจะจับเขาได้ในอีกสิบห้าปีต่อมา […]

Read more "บทเรียนจากฮันนิบาลแห่งคาร์เธจ และการเมืองไทย"

กระบวนการสร้างนวัตกรรมจากกลุ่มคนที่หลากหลาย สไตล์ Strategos

เมื่อวาน (2-1-08) ผมไปกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนรุ่นพี่ที่ผมนับถือมากคนหนึ่งชื่อสูง และรุ่นน้องอีกคนหนึ่งชื่อ Ada ที่พึ่งจบ columbia แล้วมาใช้ทุนอย่างขมักเขม้น พี่สูงจบ BE ธรรมศาสตร์เหมือนกันแล้วก็ไปทำงานที่ BCG หลายปีก่อนที่จะไปต่อ Sloan ที่ MIT แล้วไปๆมาๆก็มาทำงานที่บริษัทที่ปรึกษาการบริหาร Strategos ที่ Chicago ซึ่งมี Gary Hamel เป็น partner ซึ่งเป็นกูรูด้านยุทธศาสตร์ธุรกิจโดยเฉพาะในเชิงนวัตกรรมที่ดังที่สุดคนหนึ่งในโลก ผมรู้สึกว่าโลกมันกลมๆและเชื่อมโยงกันอย่างประหลาด เพราะบริษัทที่ว่านี้ก็มีเพื่อนรุ่นเก๋าของผมอีกคนชื่อ Haily เป็น Network partner อยู่ที่ Vietnam สรุปว่าอยู่ดีๆเพื่อนที่สำคัญในชีวิตผมสองคนก็มาเกี่ยวข้องกับบริษัทเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย แปลก…แต่ดี จริงๆก็เรื่อง six degree แต่ dynamics มันแปลกขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากพี่สูงมีหลายเรื่องตั้งแต่เรื่อง Sci-Fi เกี่ยวกับ The future of Intellectual Rights ไปจนถึงอนาคตของประชาธิปไตยไทยที่มีตัวแปรที่ incompatible และเป็น destabilizing factor […]

Read more "กระบวนการสร้างนวัตกรรมจากกลุ่มคนที่หลากหลาย สไตล์ Strategos"

Health minister to support web2.0 against risky online behavior.

Today I was presenting to the Thai Health Promotion Foundation sub-committee on its next phase of “ICT Plan for Cyber Health”. It was fun to have the Health Minister joining the meeting unofficially. I was first reviewing the situation of Thai cyberspace on risk behavior among youth. The recent survey found many interesting figure such […]

Read more "Health minister to support web2.0 against risky online behavior."